วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ว่าด้วยความโกรธ

                    ความโกรธเหมือนรอยขีด

(1) บุคคลสามพวกนี้
พระศาสดาเฉลย
เลขสูตรเอื้อนเอ่ย
รอยขีดสามอย่างไซร้

(2) หนึ่งเปรียบรอยขีดไว้
โกรธบ่อยหมักดองสิ้น
น้ำลมพัดกัดกิน
ติดแน่นต่อภายหน้า

(3) สองรอยขีดแห่งพื้น
น้ำเซาะลมพัดสี
เปรียบได้ดั่งพวกที่
แต่ไม่หมักดองไว้

(4) รอยขีดบนแผ่นน้ำ
ถูกว่าแม้หยาบหยาม
ไม่โกรธกลับสมานตาม
เปรียบดั่งรอยบนน้ำ

เปรียบเปรย
ตรัสไว้
เปรียบเทียบ
เปรียบได้โกรธา ฯ

บนหิน
เนิ่นช้า
ยากลบ
จึ่งได้ลบเลือน ฯ

ปฐพี
ลบได้
มักโกรธ
แน่นแฟ้นหนักหนา ฯ

พวกสาม
หนักซ้ำ
กันอยู่
บรรจบได้โดยพลัน ฯ





พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เลขสูตร

          [๕๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้
มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ
บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นหิน ๑
บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นดิน ๑
บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่น้ำ ๑


ดูกรภิกษุทั้งหลายก็บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นหินเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ โกรธเนืองๆ
ทั้งความโกรธของเขานั้นนอนเนื่องอยู่ในสันดานนานนัก
เปรียบเหมือนรอยขีดที่แผ่นหิน ไม่ลบเลือนเร็วเพราะลมหรือน้ำ
ย่อมตั้งอยู่ยั่งยืนแม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลบางคนในโลกนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมโกรธเนืองๆ ทั้งความโกรธของเขานั้นก็นอนเนื่อง
อยู่ในสันดานนานนัก นี้เรียกว่า บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นหิน


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นดินเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ โกรธเนืองๆ
แต่ความโกรธของเขานั้นไม่นอนเนื่องอยู่ในสันดานนานนัก
เปรียบเหมือนรอยขีดที่แผ่นดิน ลบเลือนไปโดยเร็วเพราะลมและน้ำ
ไม่ตั้งอยู่ยั่งยืนแม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลบางคนในโลกนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมโกรธเนืองๆ แต่ความโกรธของเขานั้นไม่นอนเนื่อง
อยู่ในสันดานนานนัก นี้เรียกว่า บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นดิน


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่น้ำเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ แม้จะถูกว่าด้วยคำหนักๆ
แม้จะถูกว่าด้วยคำหยาบๆ แม้จะถูกว่าด้วยคำที่ไม่พอใจ
ก็คงสมานไมตรี กลมเกลียว ปรองดองกันอยู่
เปรียบเหมือนรอยขีดที่น้ำ จะขาดจากกันก็ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น
ไม่ตั้งอยู่นาน แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลบางคนในโลกนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
แม้จะถูกว่าด้วยคำหนักๆ แม้จะถูกว่าด้วยคำหยาบๆ
แม้จะถูกว่าด้วยคำที่ไม่พอใจ ก็คงสมานไมตรี
กลมเกลียวปรองดองกันอยู่ นี้เรียกว่า บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่น้ำ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ


จบกุสินารวรรคที่ ๓


อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก เลขสูตร
อ่านอรรถกถาเลขสูตร


--------------------------------------------


“ก็ชนเหล่าใด
เข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า
‘ผู้โน้นได้ด่าเรา ผู้โน้นได้ตีเรา
ผู้โน้นได้ชนะเราผู้โน้นได้ลักสิ่งของของเราแล้ว’
เวรของชนเหล่านั้น ย่อมไม่ระงับได้,

ส่วนชนเหล่าใด
ไม่เข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า
‘ผู้โน้นได้ด่าเรา ผู้โน้นได้ติเรา
ผู้โน้นได้ชนะเราผู้โน้นได้ลักสิ่งของของเราแล้ว’
เวรของชนเหล่านั้น ย่อมระงับได้.”

อรรถกถา คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑ เรื่องพระติสสเถระ

(1) นรชนในโลกนี้
ผรุสวาทบาดใจกาย

(2) จึ่งมุ่งเอาแพ้ชนะ
เกิดก่อแต่ภัยเวร

(3) สละเสียซึ่งความโกรธ
พยาบาทอาฆาตไว้

(4) น้อมนำเมตตาจิต
ทำได้ย่อมเป็นคุณ

โทสะมีกันง่ายดาย
ลบเลือนได้แสนยากเย็น

ไม่ยอมละดับทุกข์เข็ญ
มิหลีกเร้นระงับใจ

พินิจโทษแห่งเวรภัย
ย่อมเผาใจเราเป็นจุณ

มาพินิจแลเกื้อหนุน
เกื้อการุณกันเถิดเรา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น